Skip to main content

13 ขั้นตอน วิธีการแต่งหน้า ง่ายๆ เพิ่มความมั่นใจ 1000%

13 ขั้นตอน วิธีการแต่งหน้า ง่าย ๆ เพิ่มความมั่นใจ 1000%

1.jpg

วันนี้เรามีขั้นตอนวิธีการแต่งหน้าแบบ step-by-step ที่จะเสกให้ Everyday Look ของคุณเป๊ะปัง หน้าฉ่ำโกลว์ สวยเลิศ ตลอดวัน เพิ่มความมั่นใจกันแบบ 1000% มาฝาก จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

เตรียมผิวหน้าให้พร้อมด้วยสกินแคร์บำรุงผิว

เริ่มจากการล้างหน้าให้ถูกวิธีและใช้โทนเนอร์เช็ดผิวอีกรอบเพื่อปรับค่า pH ให้ผิว หลังจากนั้นบำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์หรือเซรั่มก่อน แล้วตามด้วยครีมบำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา แนะนำให้รออย่างน้อย 1-5 นาที ให้สกินแคร์ซึมลงสู่ผิวหน้า เพื่อให้ผิวหน้าชุ่มชื้น และได้รับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ก่อนจะเริ่มแต่งหน้า

ทาลิปมันบำรุงริมฝีปาก

2.jpg

ระหว่างที่รอให้สกินแคร์ซึมลงสู่ผิวหน้า ให้ทาลิปมันหรือลิปบาล์มเพื่อบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ซึ่งลิปมันหรือลิปบาล์มส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันปัญหาปากแห้งแตกลอกเป็นขุยได้อย่างดี และยังช่วยให้เวลาที่ทาลิปสติกแล้วปากดูอวบอิ่ม สีสวย และไม่ตกร่องในระหว่างวันด้วย

ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว

ครีมกันแดดเป็นที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV จากแสงแดด หรือ แสงไฟต่าง ๆ ที่อาจทำลายชั้นผิวหน้าได้ ซึ่งวิธีการใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้องแนะนำให้ทาในปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือ โดยใช้ปริมาณ 1 ข้อนิ้วทาให้ทั่วใบหน้าและรอให้เนื้อครีมกันแดดทาหน้าได้ซึมเข้าสู่ผิวหน้าประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นก็ทาอีก 1 ข้อนิ้วที่เหลือ

Tips : ควรเลือกครีมกันแดดที่ผสมค่าป้องกันแสงแดด SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไป เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดมากที่สุด

ลงไพรเมอร์ เพื่อผิวให้เรียบเนียน

ไพรเมอร์ (Primer) เป็นไอเทมที่ช่วยอำพรางรูขุมขนและเบลอผิวให้เรียบเนียน ทำให้เครื่องสำอางติดทนนานและไม่เป็นคราบระหว่างวัน แนะนำให้ใช้ไพรเมอร์ปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว แต้มที่บริเวณแก้มหรือจุดที่ต้องการปรับผิว กดวน ๆ ให้ทั่วใบหน้า และรอให้ไพรเมอร์แห้งก่อนที่จะลงรองพื้น

ปรับสภาพผิวด้วยรองพื้น

หากคุณมีปัญหาผิวไม่มากนักอาจจะเลือกรองพื้นโดยเน้นไปที่เนื้อครีมที่เบาบางไม่หนักหน้าจนเกินไป หากเป็นคนผิวมันอาจจะเลือกรองพื้นที่ช่วยควบคุมความมันได้ยาวนานตลอดทั้งวัน หรือหากคุณเป็นคนที่มีปัญหาผิว เช่น สิว รอยแดง จุดด่างดำ ก็อาจจะเลือกรองพื้นที่ช่วยในเรื่องของการปกปิดปัญหาผิวเป็นพิเศษก็ได้

วิธีการทารองพื้น สามารถทำได้หลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน ซึ่งโดยทั่วไปมี 3 วิธีดังนี้

1. การลงรองพื้นด้วยนิ้วมือ ซึ่งนิ้วมือของเราจะช่วยในการเตรียมเนื้อรองพื้นง่ายขึ้น ทำให้เมื่อทาลงบนผิวหน้าจะช่วยเซ็ทตัวได้ดีและเกลี่ยได้ง่ายขึ้นด้วย โดยวิธีการคือใช้นิ้วเกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้า และหากต้องการปกปิดจุดไหนเพิ่มเป็นพิเศษก็สามารถใช้นิ้วมือกดซ้ำในจุดนั้นได้เลย

2. การลงรองพื้นด้วยฟองน้ำหรือพัฟคุชชั่น ทำให้สามารถเกลี่ยรองพื้นได้อย่างรวดเร็ว สีสม่ำเสมอ เกลี่ยง่าย และช่วยประหยัดเนื้อครีมรองพื้นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถซึมซับเนื้อครีมได้ดีกว่าแปรงหรือนิ้วมือ โดยกดรองพื้นใส่บนหลังหรือฝ่ามือในปริมาณที่ต้องการแล้วใช้ฟองน้ำหรือพัฟคุชชั่นเกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้า

3. การลงรองพื้นด้วยแปรง อาจจะต้องใช้ความชำนาญเพราะหากเกลี่ยผิดวิธีก็อาจจะทำให้รองพื้นดูหนาจนเกินไป แต่การลงรองพื้นด้วยแปรงก็มีข้อดีคือจะทำให้รองพื้นดูเป็นธรรมชาติ ช่วยปกปิดบริเวณใต้ดวงตา ร่องแก้ม ร่องจมูก หรือส่วนที่นิ้วมือหรือฟองน้ำเข้าไปไม่ได้

Tips : หากต้องการให้รองพื้นมีเนื้อบางเบาลง สามารถใช้เบบี้ออยล์เพียง 1 หยด ผสมกับรองพื้นเนื้อแมตต์ แล้วใช้ฟองน้ำหรือพัฟคุชชั่นเกลี่ยรองพื้นบนใบหน้า จะช่วยให้เนื้อรองพื้นเบาบางลงได้ สามารถแต่งหน้าดิวอี้ลุคให้สวยโกลว์ ฉ่ำวาว แบบสาวเกาหลีหรือสายฝอได้ง่าย ๆ พร้อมบำรุงผิวหน้าไปในตัว

ลงคอนซีลเลอร์ปกปิดริ้วรอย (รอยสิว, จุดด่างดำ, รอยคล้ำใต้ตา)

หลังจากลงรองพื้นเรียบร้อยแล้วหากยังมองเห็นจุดด่างดำต่าง ๆ รอยสิว รอยดำ รอยแดง บนผิวหน้า หรือรอยคล้ำใต้ตา แนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์ซึ่งมีความเข้มข้นในการปกปิดที่ดีกว่าเนื้อของรองพื้น แต้มทีละนิดลงบนจุดที่ต้องการปกปิด หากยังปกปิดไม่พอสามารถแต้มคอนซีลเลอร์เพิ่มทีหลังได้ หรือจะใช้รองพื้นในการช่วยปกปิดซ้ำอีกรอบก็ได้เช่นกัน

Tips : ใช้คอนซีลเลอร์เฉดสีที่สว่างกว่าสีผิวแต้มและค่อย ๆ กดลงบริเวณจุดไฮไลท์บนใบหน้า เพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้าได้ เช่น โหนกแก้ม จมูก คาง

เซ็ตผิวด้วยแป้ง เก็บรายละเอียดผิว

ปิดท้ายขั้นตอนเตรียมผิวหน้าเพื่อเพิ่มความปัง และช่วยให้ใบหน้าเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ ด้วยการใช้แป้งฝุ่น ซึ่งแป้งฝุ่นมีความโปร่งแสง เนิ้อแป้งบางเบาไม่หนักหน้า โดยเน้นปัดบริเวณ T-Zone จะช่วยลดความมันบนใบหน้าและช่วยให้รองพื้นติดทนนานตลอดวัน

Tips : พกแป้งฝุ่นอัดแข็งติดตัวไว้ซับมันระหว่างวันได้ โดยใช้ทิชชู่แห้งซับเบา ๆ บริเวณใบหน้า พัฟแตะแป้งแล้วค่อย ๆ กดให้ทั่วบริเวณผิวหน้า

เขียนคิ้วตามรูปทรงคิ้ว ให้ดูเป็นธรรมชาติ

การเลือกเฉดสีคิ้วควรเลือกให้เฉดสีอ่อนกว่าสีผมเล็กน้อย จะทำให้คิ้วดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เริ่มจากการวาดโครงกรอบคิ้วตามสไตล์ที่ต้องการ เมื่อเราได้โครงคิ้วเป็นทรงตามต้องการแล้วให้ใช้ดินสอเขียนคิ้วระบายลงในกรอบคิ้วเบา ๆ ระวังอย่างให้เข้มจนเกินไป จากนั้นให้ใช้แปรงปัดขนคิ้วจนเป็นทรงสวย ดูเป็นธรรมชาติ หากใครต้องการให้คิ้วเป็นทรง คิ้วฟู ก็สามารถใช้มาสคาร่าคิ้วปัดทับอีกครั้งเพื่อล็อกทรงคิ้วก็ได้เช่นกัน

Tips : แนะนำให้ใช้มีดกันคิ้วหรือแหนบ จัดการขนคิ้วส่วนเกินออกก่อนที่เริ่มขั้นตอนการแต่งหน้า จะทำให้เราวาดคิ้วให้เป็นทรงที่ต้องการได้ง่ายขึ้น และมีทรงคิ้วที่สวยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วย

คัดเบ้า แต่งตาด้วยอายแชโดว์

อายแชโดว์จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาดูสดใสและมีมิติขึ้น เริ่มด้วยการเลือกสีอายแชโดว์ที่ชอบ หากต้องการความเป็นธรรมชาติ แนะนำให้เลือกอายแชโดว์โทนสีชมพู โทนสีพีช หรือสีน้ำตาล โดยเลือก 2-3 สีในโทนเดียวกัน ใช้เบบี้ออยล์แตะที่เปลือกตาเล็กน้อยก่อนลงอายแชโดว์ จะช่วยให้อายแชโดว์ติดทนและมีสีที่ชัดขึ้น จากนั้นปิดท้ายด้วยการดัดขนตาแล้วปัดมาสคาร่าทั้งขนบนและขนตาล่าง เพิ่มความปังให้ดวงตาอีกที

Tips : แต่งตาแบบดอลลี่อาย (Dolly Eyes) ช่วยให้ดวงตาดูกลมโตและเพิ่มความน่ารักให้ใบหน้า เพียงใช้ดินสอเขียนขอบตาสีเนื้อหรืออายแชโดว์เนื้อชิมเมอร์สีอ่อน ๆ ทาบริเวณถุงใต้ตาเล็กน้อย เท่านี้ดวงตาก็จะดูมีมิติ วิบวับ และสดใสแบบสาวเกาหลี

กรีดอายไลเนอร์ให้ตาคมสวย

แนะนำให้เลือกใช้สีอายไลเนอร์ที่ใกล้เคียงกับสีของตาและผม โดยเลือกเฉดสีน้ำตาล เพราะจะช่วยให้ขอบตาดูซอฟต์เป็นธรรมชาติมากขึ้น เริ่มเขียนเส้นไลเนอร์ให้เรียวเล็กดูเป็นธรรมชาติ โดยวาดเส้นไลเนอร์แบบเรียวบางชิดบริเวณขอบตา จะเน้นให้รูปตาคมชัดและเป็นดูธรรมชาติแบบสาวเกาหลี สำหรับใครที่อยากได้ดวงตาที่ดูคมและดูโฉบเฉี่ยวแบบสายฝอก็อาจจะวาดให้เส้นหนาขึ้น แล้วเน้นความหนาบริเวณหัวตา และเขียนหางให้ยาวเลยออกมาจากปลายหางตาเล็กน้อย เพื่อรูปตาให้ดูยาวและดูโฉบเฉี่ยวขึ้นก็ได้

ปัดแก้มด้วยบลัชออน

3.jpg

แนะนำให้เลือกบลัชออนในโทนสีชมพูอ่อน หรือสีส้มอ่อน เพราะเป็นสีที่สามารถแต่งได้หลายลุค ไม่เข้มจนเกินไป และให้ผิวดูเป็นธรรมชาติด้วย โดยใช้แปรงแตะบลัชออน ปัดโดยเริ่มทาจากล่าง (หน้าแก้ม) และเฉียงขึ้นไปตามแนวโหนกแก้ม แล้วเบลนด์บลัชออนให้เนียนสวยไปกับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ

Tips : ใช้เบบี้ออยล์แตะที่แก้มเล็กน้อยก่อนปัดแก้มด้วยบลัชออน จะช่วยให้บลัชออนติดทนนานยิ่งขึ้น

ทาลิปสติก

การเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับโทนผิวนั้นสำคัญมาก เพราะสีของปากจะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์มากขึ้น เมื่อเลือกสีลิปสติกได้แล้ว อันดับแรกให้เริ่มจากวาดขอบปากให้เป็นรูปทรงตามที่ต้องการ จากนั้นใช้ลิปสติกทาให้ทั่วริปฝีปาก แล้วใช้นิ้วหรือแปรงทาปากเกลี่ยให้ทั่ว เพื่อให้ลิปสติกเรียบเนียนไม่ตกร่อง หากใครต้องการให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น ก็สามารถทาลิปกลอสเพิ่มความปังอีกขั้นก็ได้

Tips : หลังจากทาปากครั้งแรกแล้ว ให้ใช้กระดาษทิชู่ซับปาก 1 ครั้ง แล้วทาลิปสติกทับอีกทีจะยิ่งทำให้สีของลิปสติกติดทนยิ่งขึ้น

ล็อกเมคอัพ ด้วย Setting Spray

จบด้วย Setting Spray ในขั้นตอนสุดท้าย เป็นการฉีดสเปรย์เพื่อล็อกเครื่องสำอางให้อยู่เเน่น ติดทนตลอดทั้งวัน ช่วยให้สีสันของเมคอัพติดชัดตั้งแต่เช้าจรดค่ำและไม่หลุดง่าย วิธีการใช้ง่าย ๆ เพียงเขย่าขวดสเปรย์ก่อนใช้ ถือขวด Setting Spray ให้ห่างจากใบหน้าประมาณ 15-20 ซม. จากนั้นฉีดทั่วใบหน้าเพียง 2-3 วินาที ระวังอย่าฉีดมากเกินไปเพราะจะทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบได้

Tips : สามารถใช้ Setting Spray ฉีดก่อนเเต่งหน้าเพื่อเป็นการเตรียมผิวและช่วยให้หน้าชุ่มชื่นได้ เเละใช้หลังเเต่งหน้าเสร็จเพื่อให้เครื่องสำอางอยู่ตัวและติดทนตลอดวัน

ขั้นตอนวิธีการแต่งหน้าที่แม้แต่มือใหม่หัดแต่งหน้าก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ยิ่งได้ลงมือฝึกบ่อย ๆ ก็จะช่วยเพิ่มสกิลให้แต่งหน้าได้เก่งขึ้นด้วย แค่ลองทำตาม 13 ขั้นตอนการแต่งหน้านี้คุณก็จะมีผิวหน้าสวยตลอดวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ไม่มีดรอประหว่างวัน แถมยังเพิ่มความมั่นใจ 1000% ได้แน่นอน