10 เคล็ดลับแก้ปัญหานอนไม่หลับสมองไม่หยุดคิด
1.jpg
อาการนอนไม่หลับ สมองไม่หยุดคิดพบบ่อยในปัจจุบันเนื่องจากภาวะความเครียด ทำให้หลายคนมีเวลานอนไม่เพียงพอ รู้สึกอ่อนเพลียง่วงนอนตลอดเวลา รู้สึกหงุดหงิด ซึ่งอาการเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพ รวมถึงการดำเนินชีวิตด้วย หากปล่อยไว้นานอาจเกิดโรคแทรกซ้อน หรือโรคอื่น ๆ ตามมาได้ จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคนอนไม่หลับหรือเปล่า? แล้วสาเหตุเกิดมาจากอะไร? บทความนี้รวบรวมข้อมูลมาให้ทุกคนลองสำรวจตัวเองพร้อมเคล็ดลับการรับมืออย่างถูกต้อง
โรคนอนไม่หลับ คือ
โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) คือภาวะผิดปกติในการนอน เช่น นอนหลับได้ยาก ใช้เวลานานกว่าปกติถึงจะนอนหลับ หรือบางรายอาจมีสภาวะตื่นกลางดึกบ่อย และไม่สามารถนอนต่อได้ ซึ่งในวัยผู้ใหญ่ควรนอนพักผ่อนเป็นวลา 7-8 ชั่วโมง/วัน
สาเหตุของอาการนอนไม่หลับ (Insomnia)
สุขภาพร่างกาย
2.jpg
- อาการเจ็บป่วยหรือโรคประจำตัว เช่น ภาวะปวดต่าง ๆ, กรดไหลย้อน, โรคหัวใจ และโรคภูมิแพ้
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ ส่วนมากพบในผู้หญิงช่วงมีประจำเดือน และผู้สูงอายุ
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดไข้, ยาแก้ปวด, ยาแก้แพ้, ยาลดน้ำหนัก, และ ยาต้านซึมเศร้า
สภาวะจิตใจ
- ความวิตกกังวลและความเครียด
- โรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะจิตใจและอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวล
พฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม
- การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทำให้ร่างกายตื่นตัวในช่วงกลางคืน
- นิสัยการนอนไม่เป็นเวลา หรือการทำงานเป็นกะ ทำให้ระบบสารเคมีทำงานผิดปกติ ทำให้สมองจะยังคงอยู่ในสถานะตื่นตัว
- การเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน แสงสีฟ้าจากหน้าจอจะกระตุ้นสมองและร่างกายให้ตื่นตัว
- ห้องนอนที่มีแสงสว่างมาก กระตุ้นสมองให้ตื่นขึ้นและลดคุณภาพการหลับ
- เสียงรบกวนจากภายนอก หรือเสียงจากอุปกรณ์ในห้องนอน เช่น เสียงคันเร่งรถยนต์, เสียงเครื่องใช้ไฟฟ้า, เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์มือถือ ทำให้นอนหลับพักผ่อนได้ไม่ต่อเนื่อง
- ห้องนอนที่ร้อน หรือเย็นจนเกินไป อาจทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สบาย นอนหลับไม่สนิท รวมถึงการสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเมื่ออุณภูมิห้องเปลี่ยนไป
- การทานมื้อเย็นในปริมาณมาก อาจทำให้รู้สึกแน่นไม่สบายตัว หรืออาจเป็นกรดไหลย้อน
โรคนอนไม่หลับ แบ่งออกตามประเภทช่วงเวลาของการนอน 3 ระดับ
- Initial insomnia: ประเภทนี้เกี่ยวข้องกับความยากในการเริ่มต้นนอนหลับ ผู้ป่วยอาจใช้เวลานานในการหลับ หรือไม่สามารถหลับในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้
- Maintenance Insomnia: ประเภทนี้เกี่ยวข้องกับความยาวในการนอน ผู้ป่วยอาจตื่นกลางคืนบ่อยครั้งและนอนหลับต่อยาก
- Terminal Insomnia: ประเภทนี้ผู้ป่วยอาจตื่นขึ้นมาตอนเช้าเร็วกว่าปกติและไม่สามารถนอนต่อได้ ร่างกายรู้สึกว่าการนอนหลับเต็มที่แล้ว พบได้บ่อยในผู้มีภาวะซึมเศร้า
ภาวะแทรกซ้อนของโรคนอนไม่หลับ
- ปัญหาสุขภาพกาย การนอนไม่หลับในระยะยาวอาจทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ หรือระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง ส่งผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ เสี่ยงเป็นโรคอ้วน, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
- ปัญหาสุขภาพจิต โรคนอนไม่หลับสามารถทำให้เกิดภาวะวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือความเครียดเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
- ปัญหาการทำงานและการศึกษา อาการนอนไม่หลับทำให้ความสามารถในการทำงานลดลง การตัดสินใจไม่แม่นยำ ปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง ความจำแย่ ไม่มีสมาธิกับสิ่งที่ทำตรงหน้า
- ปัญหาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เนื่องจากความวิตกกังวล อารมณ์ไม่ดี สามารถทำให้คุณภาพการสื่อสารลดลง ซึ่งส่งผลต่อความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้าง หรือคนในครอบครัวได้
10 เคล็ดลับหลับสบาย
-
ฝึกนั่งสมาธิ
อาการนอนไม่หลับที่เกิดจากความเครียดสมองไม่หยุดคิด การฝึกสมาธิให้จิตใจจดจ่ออยู่กับลมหายใจสามารถช่วยให้สมองโล่ง รู้สึกผ่อนคลายลดความวิตกกังวลได้ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น
-
นวดผ่อนคลาย
การนวดจะช่วยลดความตึงเกร็งของกล้ามเนื้อ และช่วยให้การไหลเวียนของระบบเลือดดีขึ้น แนะนำให้ใช้จอห์นสัน เบดไทม์ เบบี้ออยล์ ที่มีกลิ่นหอมอโรม่าจากดอกมะลิและดอกลิลลี่อ่อน ๆ ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายหลับง่าย นวดไปตามจุดต่าง ๆ เช่น บริเวณหน้าผาก, บ่า, ไหล่, หลัง จนถึงเท้า
-
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ หรือการยืดเหยียดช่วยสร้างสมดุลและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ทำให้รู้สึกผ่อนคลายหลับง่ายขึ้น แต่ไม่ควรออกกำลังกายในช่วงเวลาใกล้เข้านอน เพราะจะไปกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวทำให้นอนหลับได้ยาก
-
กลิ่นหอมผ่อนคลาย
กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย เทียนหอม รวมไปถึงโลชั่น จอห์นสัน เบบี้ เบดไทม์ ส่งผลต่อระบบประสาทและอารมณ์ของเรา ด้วยความหอมจากดอกมะลิและดอกลิลลี่ของโลชั่นช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ทั้งยังให้ความชุ่มชื่นสบายผิวจึงช่วยให้หลับง่าย และยาวนานขึ้น
-
ฝึกเข้านอนให้เป็นเวลา
สร้างนิสัยการเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา ร่างกายจะปรับสมดุล และสั่งการให้หลับในเวลาใกล้เคียงกันทุกคืน เมื่อได้นอนในเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบประสาทส่วนกลาง และระบบฮอร์โมนทำงานอย่างเต็มที่ ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ที่สูญเสียไปในระหว่างวัน
-
ปรับสภาพแวดล้อมห้องนอนให้เหมาะสม
สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ และควบคุมแสงสว่าง เช่น เลือกใช้ผ้าม่านกันแสง UV นอกจากนี้อุณหภูมิในห้องนอนไม่ควรเย็น หรือร้อนจนเกินไป ควรมีความชื้นที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายตัว
-
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ 4 ถึง 6 ชั่วโมงก่อนนอน
เนื่องจากคาเฟอีนจะกระตุ้นระบบประสาท และเพิ่มระดับความตื่นตัวในร่างกายให้สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้หลับยาก ผู้ที่มีปัญหาในการนอนควรงด หรือทานในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้สามารถพักผ่อนและหลับได้เต็มที่ในแต่ละคืน
-
หลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนเข้านอน
แสงจากหน้าจอสามารถกระตุ้นระบบประสาท และลดการสร้างฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยให้นอนหลับ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้มือถือและให้เวลาสำหรับสร้างความผ่อนคลายก่อนเข้านอน
-
ไม่ทานอาหารมากเกินไป
ก่อนเข้านอนไม่ควรทานอาหารมากเกินไป เพราะระบบของร่างกายจะใช้เวลาในการย่อยอาหารในกระเพาะอาหารอาจทำให้รู้สึกอิ่มและไม่สบายตัว อย่างอาการจุกหรือแน่นท้อง
-
เลือกใช้เตียง และหมอนที่เหมาะสม
ควรเลือกเตียง และหมอนที่ให้ความนุ่มสบาย เหมาะสมกับน้ำหนักและสามารถรองรับรูปร่างของร่างกายได้ดี โดยเลือกวัสดุโปร่ง เย็นสบาย ไม่ทำให้รู้สึกร้อนเวลานอนจะช่วยให้สามารถนอนหลับได้ยาวนานขึ้น
การนอนหลับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการรักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว จะส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน, การทำงานของสมอง, ความสมดุลของระดับฮอร์โมน และประสิทธิภาพในการทำกิจวัตรประจำวัน หากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามเคล็ดลับข้างต้นแล้ว ยังมีอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
คำถามที่พบบ่อย
- ใครที่เสี่ยงเป็นโรคนอนไม่หลับบ้าง?
โรคนอนไม่หลับสามารถเกิดขึ้นกับทุกคน แต่มีบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะพบกับปัญหานอนไม่หลับมากกว่าปกติ เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือช่วงวัยหมดประจำเดือน รวมไปถึงผู้ที่มีภาวะความเครียดหรือภาวะวิตกกังวลสูง
- นอนไม่หลับนานเท่าไร จึงควรไปพบแพทย์
หากพบว่ามีอาการนอนไม่หลับมากกว่า 3 คืน/สัปดาห์ หรืออาการนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น รู้สึกไม่สดชื่น ,อารมณ์ไม่ดี ,ขาดสมาธิ และมีปัญหาในการสื่อสารหรือการทำงาน ควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และรับการรักษาที่เหมาะสม
- นอนไม่หลับ ซื้อยานอนหลับกินเองได้ไหม?
การรักษาโรคนอนไม่หลับด้วยยา ต้องพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาตามอาการและสุขภาพของแต่ละบุคคล แพทย์ต้องตรวจสอบประวัติการนอนหลับและตรวจวินิจฉัยอาการเพื่อกำหนดยาที่เหมาะสม เนื่องจากยานอนหลับมีผลกดการทำงานของสมอง การใช้ยาจึงควรอยู่ภายใต้คำแนะนำและคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น
ลงทะเบียน
Please confirm the information below before signing in.
All Fields required, unless otherwise indicated
ข้อมูลส่วนบุคคล
ขั้นตอนที่ 1
ข้อมูลบัญชีผู้ใช้
ขั้นตอนที่ 2
จะใช้เป็นชื่อผู้ใช้ของคุณ
{* customQuestions *}นโยบายความเป็นส่วนตัว เรารวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อดำเนินการคำขอสร้างบัญชีผู้ใช้สำหรับเว็บไซต์นี้ หากคุณไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เรา เราจะไม่สามารถเปิดบัญชีผู้ใช้ให้แก่คุณได้ ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกดำเนินการและเก็บรักษาโดยผู้ให้บริการที่มีสัญญากับเรา ซึ่งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและทำหน้าที่ดูแลเว็บไซต์นี้ให้แก่เรา
เมื่อคุณให้อนุญาตแก่เรา โดยการสมัครและเปิดบัญชีผู้ใช้บนเว็บไซต์ของเรา เราจะส่งข้อเสนอพิเศษ การอัพเดทเกี่ยวกับสินค้า และข้อมูลส่งเสริมการขายสินค้าต่างๆ ของเราผ่านทางจดหมาย เอสเอ็มเอส หรืออีเมล์ คุณอาจยกเลิกการอนุญาตให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ตลอดเวลาโดยแจ้งให้เราทราบหรือปรับปรุงข้อมูลของคุณในเว็บไซต์ อนึ่ง เว้นแต่กรณีที่มีกฎหมายอนุญาตให้ทำได้ คุณอาจร้องขอการเข้าถึง หรือการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ คุณสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการยกเลิกการอนุญาต การร้องขอการเข้าถึงหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล การสอบถามหรือร้องเรียนเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว รวมทั้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับเต็มของเรา ได้จาก<click here>
ในการกด "ส่ง" คุณได้ยอมรับว่า * ท่านมีความประสค์ที่จะได้รับการติดต่อด้านการตลาดจากเราผ่านทางจดหมาย อีเมล์ หรือเอสเอ็มเอส * ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกดำเนินการและเก็บรักษาไว้ภายนอกประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ และ * ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกดำเนินการโดยผู้ให้บริการที่มีสัญญากับเรา