ประโยชน์ของการนวดผ่อนคลาย มีข้อดีอย่างไร

การนวดผ่อนคลายเป็นอีกกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูง เพราะนอกจากช่วยคลายความเมื่อยล้า และลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อแล้ว ยังกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดต่าง ๆ ลงได้ บทความนี้จึงรวบรวมทริคการนวดผ่อนคลายด้วยตัวเองให้ลองทำตามกันง่าย ๆ แต่ก่อนอื่นมาเริ่มที่ประโยชน์การนวดผ่อนคลายว่ามีข้อดีอะไรบ้าง

ประโยชน์ของการนวดผ่อนคลาย

ผ่อนคลาย และลดความเครียด

การนวดคลึงไปตามจุดที่ปวดด้วยเบบี้ออยล์ ช่วยลดอาการตึงและเกร็งของกล้ามเนื้อ และกลิ่นหอมของออยล์ช่วยให้รู้สึกเบาสบาย สดชื่น ผ่อนคลายมากขึ้น

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น

การนวดขยับตามจุดต่างๆช่วยกระตุ้นให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยล้างพิษที่ตกค้างในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายปรับสมดุล ทำให้สุขภาพแข็งแรง

ผิวพรรณแลดูสุขภาพดี

การนวดผ่อนคลายนั้นช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดี ช่วยให้ร่างกายขับของเสียและสารพิษที่ตกค้างภายในออกได้ ส่งผลให้ให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี หากใช้เบบี้ออยล์นวดร่วมด้วยแล้ว คุณสมบัติของเนื้อออยล์จะช่วยลดการเสียดสี พร้อมทั้งบำรุงผิวและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน

ปรับสมดุลร่างกาย ลดอาการปวด

การนวดนั้นสามารถช่วยปรับสมดุลร่างกายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลการทำงานของระบบประสาทต่างๆ ได้ดีขึ้น ทำให้อาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อลดลง

การนอนหลับ

การนวดและกลิ่นดอกไม้แสนหอมของเบบี้ออยล์ จอห์นสันสีม่วง ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย กล้ามเนื้อไม่ตึงเกร็ง นอนหลับง่าย ส่งผลให้การนอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กระตุ้น และฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ

การนวดอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดอาการปวด ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำให้ยืดหยุ่นสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น

นวดผ่อนคลายมีกี่แบบ แต่ละแบบช่วยอะไรบ้าง

1. นวดไทย

การนวดไทยหรือการแผนนวดไทย เป็นการนวดเพื่อสุขภาพสามารถนวดได้ทั่วร่างกาย แต่ส่วนมากนิยมใช้เทคนิคการกดจุดเฉพาะที่ เช่น คอ บ่า ไหล่ เท้า รวมไปถึงการยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาอาการตึง และการเจ็บของกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายมากขึ้น

2. นวดน้ำมัน

ผู้ที่ต้องการนวดผ่อนคลาย การนวดน้ำมันเป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างมาก เพราะมีความคล้ายกับนวดแผนไทยที่ช่วยลดอาการปวด เกร็ง แต่เป็นการนวดคลึงตามจุดต่าง ๆ อย่างอ่อนโยนพร้อมกับน้ำมันหอมระเหย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ดี ทำให้สดชื่นและสมองปลอดโปร่งจากกลิ่นหอมของออยล์

3. นวดกดจุด

การนวดกดจุดรักษาโรค เป็นการนวดผ่อนคลายไทยแบบราชสำนัก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดน้ำเหลือง และระบบประสาท ช่วยฟื้นฟูและทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้นอนหลับสบายและลดภาวะซึมเศร้า โดยผู้นวดสามารถใช้อุปกรณ์หรือใช้ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ข้อศอกในการกดจุดได้ ทั้งนี้การนวดกดจุดมีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ผู้ที่บาดเจ็บหรือเกิดการอักเสบของเส้นประสาท หรือผู้ที่เป็นโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง

4. นวดสวีดิช

นวดสวีดิชมีความคล้ายกับการนวดอโรม่าเทอราพี แต่จะไม่ใช้น้ำมันหอมระเหย มีการใช้น้ำหนักมือในการนวดเพียงเล็กน้อย โดยเน้นเทคนิค การบีบ ลูบ ทุบ กด และเขย่าเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อส่วนที่ตึงให้ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมเดิมซ้ำ ๆ เช่น ออฟฟิศซินโดรม หรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ

5. นวดดีพทิชชู่

นวดดีพทิชชู่ หรือนวดรีดเส้น มีความคล้ายคลึงกับการนวดสวีดิช แต่จะเน้นแรงกดน้ำหนักมากกว่า ค่อยๆ นวดไปอย่างช้าๆ และกระะชับ เป็นการนวดคลายอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่ทีอาการปวดเรื้อรัง เพราะเป็นการนวดโดยเทคนิคการรีดเส้น ใช้หัวแม่มือ ฝ่ามือ หรือข้อศอก ลงน้ำหนักไปตามเส้น เพื่อคลายความตึงของกล้ามเนื้อ ช่วยบรรเทาความเกร็งของเส้นเอ็นและพังผืด

6. นวดเท้า

ฝ่าเท้าเป็นจุดรวมของเส้นปลายประสาทเชื่อมโยงกับอวัยวะอื่น ๆ การนวดฝ่าเท้าจึงช่วยสะท้อนการปรับสมดุลอวัยวะนั้น ๆ และยังกระตุ้นกระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้าจากการทำกิจกรรม

วิธีการนวดผ่อนคลาย ด้วยตัวเอง ง่าย ๆ โดยใช้ออยล์ทาผิวระหว่างนวด

ขณะนวดควรใช้เบบี้ออยล์ หยดลงบ่นฝ่ามือทีละน้อย เพื่อลดการเสียดสีและเพิ่มความชุ่มชื้น ได้ดังนี้

นวดหน้า และนวดศีรษะ

ใช้นิ้วมือกดตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วและจุดใต้หัวคิ้ว ใช้นิ้วที่ถนัดนวดวนเบา ๆ 3-5 ครั้ง

นวดคอ และท้ายทอย

ใช้นิ้วหัวแม่มือในการกดจุด 2 ข้างของท้ายทอย ค่อย ๆ ไล่ขึ้นไปจนถึงศีรษะเบา ๆ อย่างต่อเนื่อง

นวดบริเวณ บ่า ไหล่

ใช้นิ้วมือ กดวน ๆ บริเวณตามแนวกระดูกต้นคอ โดยไล่จากบริเวณตีนผมลงมาถึงบริเวณบ่า 3-5 ครั้ง

นวดแขน

ค่อย ๆ บีบให้ทั่วหรือใช้นิ้วมือกดจุดตามแนวแขนด้านหน้า ตั้งแต่ต้นแขนจนถึงปลายแขน

นวดข้อเท้า และน่อง

ใช้นิ้วค่อย ๆ กดจุดตามแนวกระดูกหน้าแข้งด้านใน โดยวางนิ้วขนานกับแนวกระดูกไล่ไปเรื่อย ๆ

แนะนำเบบี้ออยล์ 3 กลิ่นหอม สำหรับมือใหม่ลองนวดอโรมาด้วยตัวเอง

จอห์นสัน เบดไทม์ เบบี้ ออยล์

จอห์นสันสีม่วง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจากกลิ่นหอมอโรม่าอ่อน ๆ ของดอกมะลิและดอกลิลลี่ เมื่อใช้กับการนวดยิ่งเพิ่มความสดชื่น สบายผิว ช่วยให้หลับง่าย ทำให้การนอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

จอห์นสัน เบบี้ ออยล์ สีชมพู

โดดเด่นเรื่องการกักเก็บความชุ่มชื้น 10 เท่า* และอ่อนโยนต่อผิวด้วยจอนสันสีชมพู เพราะมีมิเนอรัลออยล์บริสุทธ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวบอบบาง ซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

*ผลทดสอบในห้องปฏิบัติการเทียบกับโลชั่น โดย Johnson & Johnson Consumer France เดือน ธ.ค. 2543

จอห์นสัน อโลเวร่า แอนด์ วิตามินอี เบบี้ ออยล์

ช่วยยกระดับความชุ่มชื้นให้ผิวและบำรุงผิว ด้วยสารสกัดจาก อโลเวร่าธรรมชาติ และ วิตามินอี กลิ่นหอมสดชื่นติดผิว

อย่างไรก็ตามการนวดผ่อนคลายนั้นไม่มีหลักตายตัวว่าควรนวดบ่อยแค่ไหน สามารถนวดได้ตามความต้องการของผู้นวด แต่สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และดูข้อควรระวังก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย