Skip to main content

แพ้เหงื่อตัวเองมีอาการเป็นอย่างไร ต้องไปหาหมอไหม

แพ้เหงื่อตัวเองมีอาการเป็นอย่างไร ต้องไปหาหมอไหม

5-7-1.jpg

อาการแพ้เหงื่อตัวเองเป็นสิ่งที่คนไทยพบเจอได้บ่อยครั้ง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าวทำให้มีเหงื่อไหลออกมาเป็นจำนวนมาก หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นผื่นคันทั่วไป เพราะมีลักษณะอาการที่ใกล้เคียงกัน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแพ้เหงื่อตัวเอง? และอาการแพ้เหงื่อเป็นอย่างไร บทความนี้รวบรวมคำตอบพร้อมวิธีการรับมือมาให้เรียบร้อยแล้ว

ผื่นแพ้เหงื่อตัวเอง คืออะไร

ผื่นแพ้เหงื่อตัวเอง คือโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบอย่างหนึ่ง โดยเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อเหงื่อของตัวเอง ทำให้เกิดอาการผื่นหรือคันบริเวนที่มีเหงื่อ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

สาเหตุของผื่นแพ้เหงื่อตัวเอง

อาการแพ้เหงื่อตัวเองเกิดจากผิวหนังตอบสนองต่อเหงื่อ ซึ่งมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบดังต่อไปนี้

  • การทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้อุณภูมิร่างกายสูงขึ้น เช่น การออกกำลังกาย การใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
  • การรับประทานอาหารที่มีความเผ็ดสูง หรืออาหารที่กระตุ้นให้มีเหงื่อเพิ่มขึ้นในขณะที่รับประทาน เช่น เครื่องดื่มคาเฟอีน หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • สภาพอากาศที่ร้อนและชื้นส่งผลให้มีเหงื่อมากขึ้น
  • สภาวะทางอารมณ์ เช่น ภาวะตื่นเต้น กลัว หรือเครียด เนื่องจากระบบประสาทของร่างกายเกี่ยวข้องกับการควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อ
  • เป็นไข้หรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวดหรือมอร์ฟีน
  • กลุ่มผู้สูงอายุ หรือวัยทอง เนื่องจากฮอร์โมนและระบบต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลต่อสภาวะอารณ์ และร่างกาย เช่น ไม่สบายตัวหรือมีเหงื่อออกในตอนกลาง

วิธีรักษา และป้องกันโรคผื่นแพ้เหงื่อตัวเอง

1. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก

เลือกทำกิจกรรมที่มีการระบายอากาศ และควบคุมอุณหภูมิ เช่น การออกกำลังกายในฟิตเนส หรือการเล่นกีฬาภายในอาคาร, การอ่านหนังสือ, การช็อปปิ้งออนไลน์แทนการออกนอกบ้านในช่วงเวลาที่อุณภูมิสูง หรือหากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศดี

2. บำรุงผิวให้แข็งแรง ด้วยโลชั่นสูตรอ่อนโยน

เลือกโลชั่นที่มีความอ่อนโยนต่อผิว และไม่มีสารเคมี อย่างโลชั่น จอห์นสัน คอตตอนทัช เฟซ แอนด์ บอดี้ ที่ช่วยปกป้องผิวที่มีแนวโน้มแพ้ง่าย เสริมเกราะปกป้องความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้น

3. ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน

รักษาความสะอาดของผิวโดยอาบน้ำในอุณหภูมิปกติ และเลือกใช้สบู่อาบน้ำ จอห์นสัน ท็อปทูโท แฮร์ & บอดี้ ที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.9%* และมีค่า pH ที่เหมาะกับผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หลังอาบน้ำควรบำรุงด้วยเบบี้ออยล์ 2-3 หยดทาลงบนผิวให้ทั่ว จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เสริมให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี

*ผลทดสอบในห้องปฏิบัติการ SGS-CSTC Standards Technical Services (Shanghai) Co., Ltd. เดือน มิ.ย.-ก.ค. 2560 ประเทศจีน เฉพาะสูตร Johnson’s Top-to-Toes Baby Bath and Active Kids Clean & Fresh Bath

4. ใช้ยาแก้แพ้ ตามคำแนะนำของแพทย์

ในกรณีที่มีอาการผื่นคันแพ้เหงื่อหรือมีการอักเสบแดงที่รุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ทานยาเพื่อลดอาการกำเริบ เช่น ยาแก้แพ้ หรือยาคีโตไตเฟน ที่ช่วยลดปริมาณเหงื่อ ทั้งนี้การทานยาอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้ เพื่อความปลอดภัยควรทานยาตามคำแนะนำของแพทย์

5. รับประทานอาหารที่เสริมระบบภูมิคุ้มกัน

ควรรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น ผักและผลไม้ ในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด แอลกอฮอล์ ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้เหงื่อได้

ใครที่มีอาการผื่นคันแพ้เหงื่อ ควรเลือกกิจกรรมให้เหมาะสมและคำนึงถึงสภาพแวดล้อม รวมถึงหมั่นดูแลผิวของตนเองอยู่เสมอ หากมีอาการผิดปกติหรือมีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคผื่นแพ้เหงื่อตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพแวดล้อมและสภาพผิวถึงวิธีการรักษาได้อย่างเหมาะสม

คำถามที่พบบ่อย

Q: รู้ได้อย่างไรว่าเป็น โรคแพ้เหงื่อตัวเอง

ผู้ที่เป็นโรคแพ้เหงื่อตัวเอง มักมีผื่นแดงที่มีลักษณะเป็นปื้นหนา ตุ่มใส หรืออาการคันบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น ข้อพับ ขาหนีบ ลำคอ รวมถึงมีอาการคันยุบยิบ อาการเป็น ๆ หาย ๆ และคันมากขึ้นเมื่อมีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษ

Q: อาการแพ้เหงื่อแบบไหน ที่ควรไปพบแพทย์?

ความอันตรายขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ สำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง โดยทั่วไปสามารถหายเองได้ภายใน 1 ชั่วโมง แต่สำหรับผู้ที่มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น มึนหัว หายใจติดขัด ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

Q: ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคผื่นแพ้เหงื่อ

กลุ่มที่มีโรคประจำ เช่น โรคหอบหืด ภูมิแพ้อากาศ ภูมิแพ้ผิวหนัง หรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นภูมิแพ้ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะมีอาการผื่นคันแพ้เหงื่อได้มากกว่าคนทั่วไป