Skip to main content

“หน้าแห้ง” ปัญหาผิวกวนใจ จะรับมืออย่างไรดี

“หน้าแห้ง” ปัญหาผิวกวนใจ จะรับมืออย่างไรดี

6-2-1.jpg

หน้าแห้ง

อาการ “หน้าแห้ง” ปัญหาผิวที่ทุกคนต้องเคยเจอ เมื่อหน้าแห้งมาก ๆ จนผิวหน้าลอกเป็นขุยก็จะส่งผลให้ชั้นผิวอ่อนแอและเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่น ความหยาบกร้าน ผิวไม่สม่ำเสมอ และผิวดูมีอายุ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าแห้ง และวิธีป้องกันอย่างถูกต้องกัน

ปัญหาหน้าแห้ง ลอกเป็นขุย

หน้าแห้ง (Dry Skin) คือ อาการของผิวหน้าที่ขาดความชุ่มชื้นจากการสูญเสียน้ำในชั้นผิว ซึ่งโดยปกติแล้วผิวหน้าของเราจะมีกลไกการผลิตน้ำมันเคลือบผิวออกมา เพื่อช่วยควบคุมสภาพผิวหน้าให้ชุ่มชื้น ไม่ให้แห้งจนเกินไป แต่หากผิวหน้าผลิตน้ำมันออกมาได้ไม่เพียงพอก็จะทำให้ผิวหน้าขาดสมดุลและอ่อนแอลง เกราะป้องกันผิวจึงไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่จนเกิดเป็นอาการผิวหน้าแห้ง หรือ ผิวหน้าลอกเป็นขุย นั่นเอง ดังนั้นการทามอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ลักษณะ อาการหน้าแห้ง

หน้าแห้ง สามารถสังเกตได้จากลักษณะของผิวหน้ามีอาการแห้งตึง ผิวหน้าไม่เรียบเนียน ผิวลอกเป็นขุย ซึ่งอาจเกิดจากการที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผิวหน้าผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงให้ความชุ่มชื้นได้ไม่เพียงพอ หรืออาจเกิดการระคายเคืองเมื่อมีการสัมผัสกับสารเคมี สบู่ เครื่องสำอางบางชนิด รวมไปถึงปัจจัยภายใน เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้นหรือโรคบางชนิด จนทำให้ผิวหน้าอ่อนแอและไวต่อการระคายเคืองได้ง่าย

วิธีดูแลรักษาหน้าแห้ง

1. ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้า เพื่อป้องกันผิวหน้าไม่ให้สูญเสียน้ำได้ง่าย ช่วยบำรุงให้ผิวมีความสมดุลและชุ่มชื้นอยู่เสมอ โดยเลือกครีมที่มีมอยเจอไรเซอร์ Mineral Oil หรือ สารบำรุงอื่น ๆ เช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) และ เซราไมด์ (Ceramides) ซึ่งช่วยในเรื่องผิวแห้งได้อย่างดี สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่แนะนำ ได้แก่

1. จอห์นสัน เบบี้ ครีม ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรอ่อนโยน พร้อมส่วนผสมของมอยเจอไรเซอร์ และ Mineral Oil ที่ทำหน้าที่เป็นฟิล์มเคลือบผิวกั้นระหว่างผิวกับสิ่งแวดล้อมภายนอก ช่วยให้ความชุ่มชื้นเข้มข้นแก่ผิวยาวนาน 24 ชั่วโมง ทั้งยังช่วยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียน้ำได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ โดยใช้ทาบนใบหน้าและลำคอเป็นประจำ เพื่อไม่ให้อาการหน้าแห้งรุนแรงขึ้น

2. จอห์นสัน มิลค์ + ไรซ์ เบบี้ ครีม ที่มีส่วนผสมจากน้ำนมธรรมชาติและสารสกัดจากข้าว เหมาะกับผิวที่ต้องการการดูแลที่อ่อนโยน และยังมีมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้อย่างดี ทั้งยังช่วยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียน้ำได้ง่ายด้วย นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่ช่วยบำรุงผิวและค่า pH ที่เหมาะกับผิว จึงสามารถใช้ทาบำรุงบริเวณใบหน้าและลำคอได้เป็นประจำในทุกวัน

เมื่อดูแลผิวหน้าแล้วก็อย่าลืมผิวกายด้วย เพราะอาการผิวแห้งไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับผิวหน้าเท่านั้นแต่ยังเกิดกับผิวกายได้ด้วย การทาโลชั่นเพื่อบำรุงผิวกายจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน อย่าง จอห์นสัน มิลค์ + ไรซ์ เบบี้ โลชั่น ที่ผสานคุณค่าน้ำนมธรรมชาติเข้มข้น ซึ่งมีสารสกัดจากข้าวที่ช่วยบำรุงและปกป้องผิวให้ชุ่มชื้นยาวนาน นอกจากนี้ยังช่วยปกป้อง 3 ปัญหาผิวที่พบบ่อย คือ ผิวแห้ง ผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย ผิวมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย

Tips: แนะนำหลังอาบน้ำหรือล้างหน้าให้ใช้ผ้าขนหนูนุ่มเช็ดเบา ๆ พอให้หมาด ๆ แล้วทาครีมบำรุงผิวหน้า โลชั่นบำรุงผิวกาย หรือเบบี้ออยล์ น้ำที่หลงเหลืออยู่บนผิวจะช่วยทำให้ผิวซึมซับผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

2. หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ผิวแห้ง

หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้ผิวแห้งตึง เช่น การล้างหน้าด้วยน้ำร้อน เช็ดหน้าหรือทำความสะอากผิวหน้าอย่างรุนแรง รวมทั้งอยู่ในห้องที่มีอากาศแห้งหรือชื้นจนเกินไป ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวหน้าให้อ่อนแอ และจะยิ่งทำให้หน้าแห้งกร้านมากกว่าเดิม

3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงผิว โฟมล้างหน้า สบู่ โลชั่นทาผิว ควรเลือกแบบที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นด้วย สามารถเลือกเป็นสูตรที่เหมาะสมสำหรับผิวแห้ง หรือผิวบอบบางแพ้ง่าย เนื่องจากคนที่มีผิวบอบบางจะเกิดปัญหาผิวได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น ๆ เพราะผิวขาดความสมดุล รวมถึงเกราะป้องกันผิวถูกทำลายจึงทำให้เกิดปัญหาผิวแพ้ง่าย รวมถึงผิวหน้าแห้งกร้านตามมาได้ง่ายเช่นกัน

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำในปริมาณให้เพียงพอ 8 แก้วต่อวัน หรือ 2 ลิตรต่อวันขึ้นไป จะช่วยรักษาความชุ่มชื่นของผิวได้ เนื่องจากน้ำเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสมดุลและใช้ในกระบวนการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายรวมถึงช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว

5. รับประทานอาหารที่มีสารอาหารบำรุงผิว

อาหารที่รวมถึงผักผลไม้สด ๆ และไขมันดี เช่น แตงกวา อะโวคาโด วอลนัท และ เมล็ดมะกอก จะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นสุขภาพดีจากภายใน เมื่อชั้นผิวแข็งแรงก็จะช่วยลดโอกาสหน้าแห้งได้ดียิ่งขึ้น

การป้องกันหน้าแห้ง

หมั่นทาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวเป็นประจำ

ผิวแห้ง คือ สภาวะที่ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นและสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ควรเลือกใช้ออยล์ หรือ ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยปรับสมดุลน้ำให้กับผิว และช่วยลดการระคายเคืองผิวที่เป็นสาเหตุของหน้าแห้ง และช่วยให้เมคอัพติดทนนานขึ้น

ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

ครีมกันแดดนอกจากจะช่วยป้องกันจากรังสียูวี (UV) แล้ว ยังช่วยปกป้องผิวจากการเสื่อมสภาพจากแสงแดดและความลดการเสื่อมของผิวหน้าที่อาจถูกทำลายจากสิ่งต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น ลม ความแห้ง-ชื้นในอากาศ

หลี่กเลี่ยงการโดนแดดหรือลมโดยตรง

ควรสวมหมวกและเสื้อผ้าที่ปกคลุมผิว เพื่อปกป้องจากแสงแดดและลม ที่อาจเสียดสีและทำให้ผิวหน้าถูกทำร้ายและแห้งได้ง่ายขึ้น

ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในบ้าน

ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในบ้านให้เหมาะสมอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงสภาวะอากาศแห้งที่อาจกระทบต่อผิวหน้า เมื่ออากาศมีความสมดุลจะช่วยให้ผิวหน้าคงความชุ่มชื้นและสุขภาพดีได้

หน้าแห้งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความสวยงามและสุขภาพของผิวพรรณ ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดการระคายเคืองมากขึ้น จึงต้องมีการบำรุงผิวหน้าและผิวกายอย่างเป็นประจำเพื่อให้ผิวของคุณคงความชุ่มชื่นและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ